ราวตากผ้าถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ทุกคนต้องมีติดบ้านไว้เพื่อใช้ในการตากผ้าของเราให้แห้ง ราวตากผ้ามีหลากหลายแบบมากมาย ตามแต่ความต้องการบางท่านพื้นที่จำกัดอาจต้องใช้ราวตากผ้าขนาดเล็ก หรือถ้าพื้นที่บริเวณกว้างหน่อยก็จะสามารถใช้ราวตากผ้าใหญ่ และมีหล่อเลื่อนเพื่ออำนวยความสะดวก วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับดีๆ มาบอกทุกคนกัน กับ3 วิธีเลือกซื้อราวตากผ้าอย่างไรให้โดนใจ ใช้งานได้นาน
1. เลือกจากวัสดีที่มีความแข็งแรงและคงทน
การเลือกซื้อราวตากผ้าที่ทำจากวัสดุที่ได้มาตรฐานอย่างเช่นอะลูมิเนียม จะช่วยทำให้การตากผ้าของเราง่าย สะดวก คงทนและแข็งแรงไม่โอนเอนไปมา แต่หากเราเลือกแบบพลาสติก ที่ไม่มีความแข็งแรงก็อาจจะทำให้ผ้าล้มลงมาได้ง่าย ไม่คงทนและถาวร การเลือกราวตากผ้าที่แข็งแรงอาจพิจารณาจากการดูวัสดุที่ใช้ทำ และลองจับหรือโยกดูว่าน็อตมีความแน่นหนา หรือแข็งแรงคงทนมากพอหรือไม่ มีการโอนเอนไปมาหรือเปล่า นอกจากนี้ หากเราเลือกวัสดุที่ดี ยังทำให้เราไม่ต้องเปลืองเงินซื้อราวตากผ้าใหม่บ่อยๆและยังช่วยให้การตากผ้าแต่ละครั้งนั้นมีประสิทธิภาพ ผ้าแห้งไว
2. พิจารณาจากปริมาณผ้าของตนเอง
การเลือกซื้อราวตากผ้า เราควรพิจารณาจากผ้าที่เราต้องซักตากก่อนเป็นอันดับแรก หากไปเลือกซื้อราวตากผ้าเล็ก แต่ผ้าของเรามีจำนวนมาก เพราะมีสมาชิกในบ้านหลายคน อาจทำให้ที่ตากไม่พอ และทำให้ผ้าเกิดกลิ่นอับตามมาได้ สิ่งสำคัญคือเมื่อรู้จำนวนผ้าแล้ว ก็เลือกราวตากที่เหมาะกับความต้องการ ยิ่งถ้าผ้าเยอะ ก็อาจต้องใช้ราวตากผ้าจำนวนมากตามไปด้วย เช่น 2 – 3 ชิ้น เอาไว้แยกตากเสื้อผ้าทั่วไป ผ้าเช็ดตัว และเสื้อในกางเกงในเป็นต้น นอกจากนี้หากใครมีผ้าจำนวนมาก แต่พื้นที่น้อย อาจจำเป็นต้องซื้อราวตากผ้าขนาดเล็ก และหมั่นขยันซักบ่อยครั้ง เพื่อให้ไม่ต้องซักผ้าทีเดียวเยอะๆ จะได้เพียงพอต่อราวตากผ้าที่เรามีนั่นเอง
3. เลือกราวตากผ้าแบบมีล้อเลื่อน
หากเรามีพื้นที่ในบ้านค่อนข้างกว้าง การเลือกซื้อราวตากผ้าแบบมีล้อเลื่อนไปมา ถือเป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญเพราะจะช่วยให้เราเคลื่อนย้ายผ้าในกรณีฝนตกได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสะดวกต่อการเลื่อนไปมาเพื่อตากผ้าให้สะดวกง่ายสบาย ไม่ต้องยกให้หนักเลย อย่างไรก็ตามหากใครไม่สะดวกแบบล้อเลื่อนจริงๆ อาจเลือกราวตากที่ทำจากวัสดุคงทนแข็งแรงไม่โอนเอนเพื่อช่วยให้การตากผ้านั้นมีประสิทธิภาพดีมากยิ่งขึ้น
